รีวิวมอเตอร์ไซค์

Kawasaki Z400 Sugomi Style ตัวแรงสุดแกร่ง

Kawasaki Z400 Sugomi Style ตัวแรงสุดแกร่ง

ขอบคุณที่มาภาพจาก bigbike

          Kawasaki Z400 สปอร์ตเนคเก็ตโมเดลล่าสุดในตระกูล Z มาพร้อมความดุดัน ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคัน ไฟท้ายแบบ LED ส่องสว่างได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับ Ninja 400 และช่วยเสริมความคมเข้มให้กับเจ้า Z400 ได้เป็นอย่างดี เรือนไมล์แสดงค่าแบบดิจิตอล หน้าจอแบบ LCD มัลติฟังก์ชั่นและสวิตช์ควบคุมต่างๆ ใช้งานได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสแบบเดียวกับ Ninja 650 แฮนด์บาร์ยกขึ้นเหนือแผงคอเน้นความกว้าง กระชับ ควบคุมง่าย ถังน้ำมันขนาดใหญ่จุได้ถึง 14 ลิตร เบาะนั่งแบบ 2 ชั้นแบบเดียวกับ Ninja 400 ท่อไอเสียแบบใหม่ให้อารมณ์ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น

Kawasaki Z400 Sugomi Style ตัวแรงสุดแกร่ง

ขอบคุณที่มาภาพจาก bigbikeinfo

          ล้อหน้า/หลังเป็นล้ออลูมิเนียม 5 ก้าน เพื่อให้มีการรับและกระจายแรงได้ดี และมีน้ำหนักเบา ขนาดยาง 150/60 – 70 มิติตัวรถยาว x กว้าง x สูง = 1,990 x 800 x 1,055 มม. ระบบโครงสร้างของ Kawasaki Z400 ได้รับการออกแบบใหม่แบบเดียวกับของ Ninja 400 ซึ่งจะเป็นโครงเหล็กกล้าแบบ “High-Tensile steel” คาวาซากิได้นำเทคโนโลยีขึ้นสูงมาวิเคราะห์ความแข็งแรงของตัวโครงสร้าง เพื่อให้ตัวเฟรมมีสัดส่วนความคงตัวสูง ทนต่อแรงบิดและน้ำหนักเบามากที่สุด ในส่วนของระบบกันสะเทือนใช้โช้คอัพหน้าแบบเทเลสโคบิดหัวกลับขนาด 41 มม. ไม่สามารถปรับแต่งได้ มีระยะการทำงานที่ 120 มม. ด้านหลังใช้ โช้คอัพเดี่ยวแบบ Mono Shock ทำงานร่วมกับกระเดี่องสวิงอาร์ม Uni-Trak สามารถปรับตั้งความแข็ง-อ่อนของสปริงได้ มีระยะการทำงานที่ 130 มม. ระบบเบรกด้านหน้าใช้จานเบรกเดี่ยวขนาด 310 มม. ด้านหลังเป็นจานเบรกเดี่ยว 220 มม. จานเบรกเป็นชนิด Semi Floating คาลิเปอร์ NISSIN 2 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS แบบ Dual-channel

Kawasaki Z400 Sugomi Style ตัวแรงสุดแกร่ง

ขอบคุณที่มาภาพจาก bigbike

      ด้านเครื่องยนต์ของเจ้า Kawasaki Z400 ได้รับการออกแบบใหม่ เครื่องยนต์เป็น แบบ 2 สูบ 4 จังหวะ DOHC 8 วาล์ว (4 วาล์ว ต่อ 1 ลูกสูบ) ขนาด ความจุของเครื่องยนต์ 399 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ อัตราส่วนกำลังอัดของเครื่องยนต์อยู่ที่ 11.5:1 กระบอกสูบ x ระยะซัก = 70 x 51.8 มม. พร้อมด้วย Assist & Slipper Clutch ช่วยให้ก้านคลัทช์บีบง่ายขึ้นกว่าเดิมอีก 20% เมื่อก้านคลัทช์ใช้งานได้ง่ายขึ้นก็ทำให้การตัด/ต่อกำลังเป็นเรื่องที่ง่าย ช่วยลดการกระชากของล้อหลังในช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยชุดโซ่-สเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่และการตอบสนองของคันเร่งยังมีความนิ่มนวล ไร้การสะดุด ทำให้การควบคุมหรือใช้คันเร่งสามารถทำได้ง่ายทั้งกับ ผู้เริ่มต้นและผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์